ข้อควรรู้
วิธีติดตั้งสวิตช์ไฟฟ้าในบ้าน

วิธีติดตั้งสวิตช์ไฟในบ้านด้วยตัวเองไม่ต้องรอช่างไฟ!

   งานที่เกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้า ส่วนใหญ่ผู้อยู่อาศัยทั่วไปมักจะไม่ได้เป็นคนลงมือเองจะต้องรอ ช่างไฟ มาเป็นผู้จัดการให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะเรื่องของกระแสไฟฟ้าหากเราไม่มีความรู้ความชำนาญ การจะลงมือกับกระแสไฟฟ้าย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยแน่นอนแต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องยอมรับว่าหากมันเป็นงานเล็กๆ น้อยการจะหาช่างไฟมาทำงานให้ถึงบ้านบางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นหากเป็นไปได้เราก็ควรจะเรียนรู้และฝึกฝนทักษะงานช่างไฟเบื้องต้นเอาไว้ด้วยและหนึ่งในงานเรื่องไฟฟ้าในบ้านที่เรามักจะมีความต้องการเพิ่มเติมก็คือ เรื่องการติดตั้งสวิทช์ไฟฟ้าเพิ่มเติมในบ้าน ซึ่งบ้างครั้งก็เกิดจากการที่เราลงมือตกแต่งบ้านใหม่ต้องการเพิ่มมุมหรือเพิ่มโคมไฟตกแต่งในบ้าน การมีสวิทช์ไฟฟ้าใหม่อีกจุดก็เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นซึ่งงานนี้เราสามารถทำเองได้ หากว่าเรารู้วิธีและขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง

ขั้นตอนในการ ติดตั้งสวิทช์ไฟในบ้านด้วยตัวเอง

   1. เลือกจุดที่จะต่อเชื่อมสายไฟฟ้า หมายถึง ตำแหน่งที่เราต้องการติดตั้งสวิทช์ไฟฟ้าใหม่กับจุดที่เราจะเชื่อมต่อสายไฟฟ้ามาใช้งาน ซึ่งดีที่สุดก็คือการต่อมาจากเบรกเกอร์จ่ายไฟโดยตรง แต่หากว่ามันมีระยะทางที่ไกลมาก เราก็ต้องหาจุดเชื่อมที่ใกล้ที่สุดเพื่อต่อสายไฟมาใช้งาน

   2. เจาะผนังด้วยสว่านไฟฟ้าและฝังพุกเข้าไป เพื่อติดฐานสวิทช์ในกรณีเป็นการเดินสายในท่อ เราจะต้องเจาะผนังเพิ่มเหนือกล่องฐานสวิทช์เป็นแนวขึ้นไปเพื่อติดกิ๊บรัดท่อ

   3. ในกรณีเดินสายไฟในท่อให้จัดการติดท่อและร้อยสายไฟชุดใหม่เข้าไปในท่อให้เรียบร้อย เผื่อระยะสายสำหรับต่อเข้ากับจุดเชื่อมสายไฟ

   4. ติดตั้งกล่องรับสายไฟ (กล่องจุดเชื่อมเพื่อแยกสายไฟ) จากนั้น ลงเบรกเกอร์ต่อสายไฟใหม่เข้ากับชุดสายไฟเดิมตามสีของสายไฟ (แดง ขาว ดำ) พันด้วยเทปและหัวต่อครอบป้องกันให้เรียบร้อยแล้วปิดกล่อง

   5. ต่อสายไฟที่โยงลงมาในจุดใหม่เข้ากับสวิทช์ตัวใหม่ ปิดครอบสวิทช์เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

   *ข้อควรระวัง* จะต้องใส่ใจในเรื่องการเชื่อมต่อสายไฟให้มาก ไม่ว่าจะเรื่องสายไฟแต่ละสีที่ต้องใช้ให้ตรงกันชัดเจนและการเชื่อมต่อสายไฟที่ต้องระวังเรื่องสายทองแดงโดนกัน เพราะจะทำให้เกิดการลัดวงจรเกิดความเสียหาย เป็นอันตรายหรือเกิดเพลิงไหม้ได้แต่หากว่าเรามีความรอบคอบใส่ใจ การติดตั้งสวิทช์ไฟฟ้าใหม่ในบ้านเราก็สามารถทำเองได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.helpdee.com ออนไลน์